การวิเคราะห์ปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียและแนวทางการปรับปรุง
07/08/2023
การวิเคราะห์ปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียและแนวทางการปรับปรุง
07/08/2023
การวิเคราะห์ปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียและแนวทางการปรับปรุง
การวิเคราะห์ปัญหาระบบบำบัดน้ำเสีย และแนวทางการปรับปรุงมีขั้นตอนดังนี้
1. การตรวจสอบข้อมูล รูปแบบ และรายละเอียดระบบบำบัดน้ำเสีย
การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียให้มากที่สุด ข้อมูลที่จำเป็น ได้แก่
2. การตรวจสอบปริมาณและลักษณะของน้ำเสีย
ปริมาณและลักษณะของน้ำเสียที่เข้าระบบเป็นข้อมูลสำคัญในการตรวจสอบระบบ ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบความสามารถในการรองรับน้ำเสียของระบบ การตรวจสอบปริมาณน้ำเสียสามารถทำได้หลายวิธีแต่วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด คือการประมาณจากปริมาณการใช้น้ำประปา โดยปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นเท่ากับร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้ประปา ส่วนลักษณะน้ำเสียเข้าระบบต้องส่งไปวิเคราะห์ที่หน่วยงานหรือบริษัทรับวิเคราะห์น้ำเสีย พารามิเตอร์ที่ควรทำการตรวจวัด ดังตาราง
ตาราง พารามิเตอร์ที่ควรทำการตรวจวัดน้ำเสีย
พารามิเตอร์ | หน่วย | น้ำเสียก่อนการ บำบัด |
น้ำเสีย หลังผ่าน การบำบัด |
ค่ามาตรฐาน น้ำทิ้ง |
---|---|---|---|---|
พีเอช | - | 5.5 – 9.0 | ||
ซีโอดี | มก./ล. | 200 มก./ล. | ||
บีโอดี | มก./ล. | 20 มก./ล. | ||
สารแขวนลอย | มก./ล. | 40 มก./ล. | ||
น้ำมันและไขมัน | มก./ล. | 20 มก./ล. |
3. การตรวจสอบความสามารถรองรับน้ำเสียของระบบ
การตรวจสอบความสามารถรองรับน้ำเสียของระบบในปัจจุบันเป็นการนำเอาข้อมูลปริมาณลักษณะน้ำเสีย ขนาดถัง และอุปกรณ์เครื่องจักรกล จากการตรวจสอบข้างต้นมาตรวจสอบรายการคำนวณว่าระบบมีความสามารถรองรับน้ำเสียในปัจจุบันได้หรือไม่ โดยแยกตามหน่วยการบำบัด เช่น บ่อเกรอะ ถังปรับสภาพ ถังเติมอากาศ ถังตกตะกอน ถังสูบตะกอนย้อนกลับและถังสูบน้ำทิ้ง เป็นต้น ผู้ตรวจสอบต้องอาศัยความรู้ด้าน
การออกแบบเบื้องต้น การเปรียบเทียบค่าออกแบบของระบบจริงใน
ปัจจุบันกับค่าเกณฑ์การออกแบบ (Design Criteria) การหาข้อมูลรายละเอียดความสามารถของอุปกรณ์ในระบบ เช่น อัตราการให้ออกซิเจนของเครื่องเติมอากาศ อัตราการสูบน้ำของเครื่องสูบน้ำ เป็นต้น
กรณีที่ผู้ประกอบการมีรายการคำนวณประกอบแบบ ผู้ตรวจสอบควรพิจารณาปริมาณและลักษณะน้ำเสียขาเข้าในปัจจุบันเปรียบเทียบกับข้อมูลการออกแบบว่าระบบสามารถรองรับน้ำเสียได้และ/หรือมีอุปกรณ์
ครบตามที่ออกแบบไว้หรือไม่
4. การตรวจสอบสถานภาพของระบบ
การตรวจสอบสถานภาพของระบบเป็นการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพต่างๆ ที่เป็นสิ่งบ่งบอกถึงการทำงานของระบบว่าสมบูรณ์เพียงใดตัวอย่างการตรวจสอบทางกายภาพ ประกอบด้วย
5. การวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไข
เมื่อทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบผู้ตรวจสอบต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสีย ในการวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ และกำหนดวิธีการแก้ไข ในบางปัญหาอาจมีโอกาสเกิดจากหลายสาเหตุ ตัวอย่างการวิเคราะห์ปัญหาและวิธีการแก้ไข ดังตาราง
ข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข | ปัญหาที่เกิดจากข้อบกพร่อง | วิธีดำเนินการแก้ไข |
---|---|---|
1. เกิดตะกอนลอยที่หน้าในถังตกตะกอน | ตะกอนลอยอาจหลุดไปกับน้ำทิ้ง ทำให้น้ำทิ้งไม่ผ่านตามมาตรฐานฯ | 1. ทำการสูบตะกอนที่ทับถมและตะกอนที่ลอยหน้าในถังตกตะกอนทิ้ง 2. ตรวจสอบการทำงานของบ่อดักไขมัน ตักไขมันทิ้งอย่างสม่ำเสมอ 3. ตรวจสอบค่าปริมาณออกซิเจนละลายในถังเติมอากาศ หากมีปริมาณต่ำ ให้เพิ่มการเติมอากาศ 4. ปรับปรุงระบบสูบตะกอนย้อนกลับ 5. เพิ่มปรอมาณการทิ้งตะกอน |
2. ท่อระบายตะกอนจากถังตกตะกอนอุดตัน | เกิดจากการทับถมของตะกอนในถังตกตะกอน ทำให้เกิดก๊าซจากการหมักเป็นผลให้ตะกอนลอยชั้นที่ผิวหน้า | แก้ไขการอุดตันของท่อระบายตะกอน หากยังไม่ดีขึ้นหรือตะกอนตันบ่อยให้ทำการย้ายเครื่องสูบตะกอนย้อนกลับมาไว้ในถังตะกอน |
6. การวางแผนงานการปรับปรุงระบบ
เมื่อทราบวิธีการแก้ไข ผู้ตรวจสอบต้องวางแผนงานการปรับปรุงโดยกำหนดขั้นตอนการดำเนินงาน ประมาณการค่าใช้จ่าย พร้อมกำหนดระยะเวลาในการปรับปรุงระบบในแต่ละขั้นตอน เพื่อใช้เป็นแผนงาน
เป้าหมายของการดำเนินงานปรับปรุงระบบตัวอย่างตารางแผนงานการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียหรือการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ตามตาราง
7. สรุปผลการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย
เมื่อดำเนินการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียแล้วเสร็จ ผู้ตรวจสอบต้องทำการติดตามผลการดำเนินงานและสรุปผลการปรับปรุงโดยการพิจารณาจากผลวิเคราะห์น้ำทิ้ง พร้อมสรุประยะเวลาการดำเนินการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบ
ที่มา : กรมควบคุมมลพิษ