บทความ

การจัดการสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว
17/08/2023

การจัดการสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว
17/08/2023

การจัดการสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

การจัดการสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว
สิ่งปฏิกูล หมายความว่า อุจจาระหรือปัสสาวะในโรงงานของผู้ก่อกำเนิด และให้หมายถึงมูลสัตว์หรือสิ่งอื่นใดซึ่งเป้นสิ่งโสโครกในโรงงานของผู้ก่อกำเนิด

วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หมายความว่า วัสดุหรือสิ่งใดๆ ที่ดรงงานผู้ก่อกำเนิดไม่ใช้แล้ว หรือที่ไม่ประสงค์ใช้ตามวัตถุประสงค์เดิม หรือที่ไม่ได้คุณภาพ หรือยังไม่ได้ใช้งาน ที่เป้นของเสียอันตราย และไม่เป็นของเสียอันตรายไม่ว่าจะมีมูลค่า หรือสามารถนำไปจำหน่ายหรือขายสินค้า หรือเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้หรือไม่ก็ตาม

ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 ที่นำหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายหรือเป็นผู้รับผิดชอบ (Polluter Pays Principle: PPP) มาใช้เพื่อกำหนดความรับผิดตั้งแต่โรงงานผู้ก่อกำเนิด ไปจนกว่าสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจะได้รับการจัดการ โดยความรับผิดชอบจะสิ้นสุดเมื่อโรงงานผู้รับกำจัดได้รับมอบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ยกเว้น การส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ผ่านระบบการรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ iSingle Form (https://isingleform.go.th/home) ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และจะมีผลนับถัดจากวันที่ประกาศ ฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานล่าช้ามีโทษปรับสุงสุด 20,000 บาท

ผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) โรงงานทั่วประเทศ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ต้องรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตราย ภายในวันที่ 1 เมษายนของปีถัดไป โดยข้อมูลรอบปี พ.ศ. 2565 กำหนดให้รายงานภายใน 30 วัน นับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 สำหรับโรงงานที่ส่งรายงาน แบบ สก.3 รอบปี พ.ศ. 2565 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 แล้ว จะถือว่าได้ส่งรายงานประจำปี รอบปี พ.ศ. 2565 ตามประกาศฉบับใหม่แล้วเรียบร้อย

ผู้รับบำบัดกำจัดของเสีย (Waste Processor: WP) คือโรงงานลำดับที่ 101, 105 และ 106 จำนวน 2,500 โรงงานทั่วประเทศ จะต้องจัดส่งรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป มีผลนับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะรายงานข้อมูลครั้งแรกภายใน 15 กรกฎาคม 2566