น้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง

วันที่ 25 มกราคม 2565 ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลบริเวณอ่าวมาบตาพุด จ.ระยอง เกิดการรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีคราบน้ำมันกระจายกลางอ่าวไทย

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ใช้ภาพจากดาวเทียม Sentinel-2 ของวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 10.40 น. พบคราบน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ 11.65 ตารางกิโลเมตร (7,280 ไร่) หรือกว่า 2 เท่าของเกาะเสม็ด โดยลอยตัวอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลของอำเภอเมืองระยองราว 16.5 กิโลเมตร คราบน้ำมันได้เคลื่อนตัวจากจุดรั่วไหล ในที่สุดช่วงเช้าของวันที่ 29 มกราคม 2565 คราบน้ำมันดิบกลุ่มแรกที่รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) จากนั้นลอยขึ้นฝั่งและปนเปื้อนชายหาดแม่รำพึง หลังจากเกิดเหตุบริษัท SPRC ได้มีการกำจัดคราบน้ำมันดิบในทะเลแล้ว จึงเหลืออยู่ 5,000 ลิตร ในฐานะตัวแทนรัฐบาล รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมพูดว่า “ขอยืนยันว่าการรั่วไหลของน้ำมันดิบจะไม่กระทบกับการท่องเที่ยวและหาดแม่รำพึงอย่างแน่นอน

ตั้งแต่ผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาและจนถึงวันนี้เหตุการณ์ผ่านไปนานเกือบ 4 เดือน จนกระทั่งวันนี้ (13 พ.ค. 2565) ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกดังกล่าวยังไม่ได้รับเงินชดเชย นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด และนายประเสริฐ ศิริมหา ประธานกลุ่มร้านอาหารเต็นท์เขียว นายวีรศักดิ์ คงณรงค์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านท้องถิ่น จ.ระยอง ได้นำกลุ่มประมงพื้นบ้านท้องถิ่น จ.ระยอง กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารเต็นท์เขียวหาดแม่รำพึง กลุ่มแม่ค้าขายส้มตำไก่ย่างรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และกลุ่มห่วงยาง เก้าอี้ผ้าใบให้เช่าจำนวนเกือบ 100 ราย จึงได้รวมตัวที่หัวสะพานคลองหัวรถ เพื่อเรียกร้องให้ SPRC ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของน้ำมันดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาคราบน้ำมันอย่างเป็นธรรม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เกิดเหตุคราบน้ำมันรั่วกลางทะเลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา